ช่วงใกล้เปิดศักราชใหม่กันแล้ว GangBeauty จึงขอแนะนำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้ทุกท่านไปไหว้ขอพรกัน ซึ่ง 7 ศาลเจ้าที่แนะนำกันในวันนี้เชื่อว่าหากขออะไรแล้วจะสมหวังดังตั้งใจ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลตั้งอยู่ในกรุงเทพฯนี่เอง ลองไปดูกันคะว่ามีที่ไหนกันบ้าง
1. ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี้ยะ ตั้งอยู่กลางซอยเยาวราช 6
ศาลเจ้าเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2201 ศาลเจ้านี้สร้างจากช่างฝีมือชาวแต้จิ๋วภายในมีวัตถุโบราณจากประเทศจีนหลายชิ้นที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์และยังถูกเก็บรักษาอย่างดีมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีกระถางธูปที่พระราชทานจากองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อีกด้วย สำหรับเรื่องการขอพรที่สถานที่แห่งนี้นั่นโดดเด่นที่สุดในเรื่องการค้าขาย เรียกได้ว่า ถ้าเป็นคนเก่าคนแก่แล้วล่ะก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักศาลเจ้าแห่งนี้เด็ดขาด
2. ศาลเจ้าพ่อม้า ตลาดเก่าเยาวราช
ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ทีประวัติมายาวนานกว่า 268 ปี โดยศาลนี้ประธานคือ องค์เทพเจ้ากวนอู แต่ที่พิเศษคือ ม้าเซ็กเทาว์ที่ถือว่าเป็นม้าที่วิ่งได้เร็วและไกลที่สุดอยู่ด้านข้างด้วย ดังนั้น หากใครจะมาขอให้การงานของตัวเองก้าวหน้า ได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งที่ศาลแห่งนี้คือ อีกหนึ่งแห่งที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง หรือแม้แต่การมาขอพรให้ลูกน้อง บริวารทั้งหลายให้มีความซื่อสัตย์ก็ได้ผลที่ดีเช่นเดียวกัน
3. ศาลเจ้าแม่ประดู่ ตลาดเก่าเยาวราช
ศาลเจ้าแห่งนี้อยู่คู่กับเยาวราชมากว่า 170 ปี องค์พระถูกแกะสลักมาจากไม้ประดู่จึงทำให้ศาลนี้ได้ชื่อว่า ศาลเจ้าแม่ประดู่ แต่องค์ท่านจริงแล้วคือ องค์เทียนซั่งเซิงหมู่หรือที่ชาวไทยรู้จักกันในนามเจ้าแม่ทับทิมนั่นเอง โดยที่ศาลแห่งนี้มักจะมีคนมากราบไหว้ขอพรในเรื่องความรักโดยจุดเทียนแดงหนึ่งคู่ถวายแต่องค์เจ้าแม่ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะสำเร็จสมความปรารถนา เลยทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการขอพรเรื่องความรักเลยทีเดียว
4. ศาลเจ้าโจวซือกง ย่านตลาดน้อย ซ.วานิช 2
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นราวๆปี พ.ศ. 2347 โดยเศรษฐีชาวฮกเกี้ยนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยและประกอบธุรกิจโรงเผาถ่าน โดยเศรษฐีท่านนี้ได้นำองค์พระเฉ่งจุ้ยจ้อซูกง อันเป็นที่เคารพของชาวฮกเกี้ยนมาด้วยและตั้งศาลให้ท่านได้ประทับ ณ บริเวณตลอดน้อย โดยองค์พระเฉ่งจุ้ยจ้อซูกงนั้น ท่านเป็นเทพแห่งหมอยา ดังนั้น ผู้คนที่มากราบไหว้จึงมักจะมาขอพรให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง หรือหายจากอาการเจ็บป่วยที่ตัวเองเป็นอยู่
5. ศาลเจ้าซิดเซี้ยม้า ถนนไมตรีจิตต์ บริเวณหัวลำโพง
หากพูดถึงชื่อนี้หลายๆท่านอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อนามของศาลเจ้า จริงๆหากแปลเป็นภาษาไทยคือ เทพธิดา 7 นางฟ้า โดยในศาลเป็นที่ประทับขององค์นางฟ้า จื่อหนี่ หากคุณยังไม่คุ้นเคยอีก ผมขอให้คุณนึกถึงตำนานรักอันสุดซึ้งระหว่าง หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า แล้วคุณจะทราบได้ว่า องค์นางฟ้าจื่อหนี่นั้นคือ สาวทอผ้านั่นเอง ศาลเทพธิดา 7 นางฟ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่และศักดิ์สิทธ์มาก โดยเฉพาะหากใครกำลังถูกคนปองร้าย ใส่ร้ายใส่ความในสิ่งที่ไม่เป็นจริง หากคุณมาขอพรจากองค์ท่านรับรองว่า เรื่องนั้นจะคลี่คลายออกไปอย่างรวดเร็วราวปาฏิหาริย์ทีเดียว
6. ศาลเจ้าพ่อพระเพลิง ริมสะพานกรุงเทพ
สำหรับองค์เจ้าพ่อพระเพลิงนั้น ท่านเป็นแม่ทัพสวรรค์ภายใต้สังกัดของเอี่ยนเทียนส่งเต้ที่เป็น 1 ใน 36 ขุนพลสวรรค์ และเนื่องจากท่านมีความสามารถในการใช้ไฟเป็นอย่างมาก คนทั่วไปจึงนับถือท่านเป็นเทพแห่งไฟ และมักมาขอพรในเรื่องที่เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย แต่สำหรับที่ศาลเจ้าแห่งนี้ผมขอแนะนำให้ท่านขอพระเกี่ยวกับเรื่องการงานด้วยการถวายเทียนแดงจุดบูชาท่าน แล้วคุณจะพบกับความสำเร็จในงานอย่างน่าอัศจรรย์ทีเดียว
7. ศาลเจ้าแม่ทับทิม ริมสะพานซังฮี้
สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้นับว่าเป็นศาลขององค์เจ้าแม่ทับทิมที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เรื่องตำนานความศักดิ์สิทธิ์นั้นมีมากมายเกินกว่าจะเขียนได้หมด ผมจึงจะมาแนะนำการไหว้ขอพรแทน ขอเรื่องความรักในพวงมาลัยมะลิกลมๆสวยๆ หอมๆ 6 พวง องุ่นแดง 1 พานและหอมแดง 6 หัว ขอเรื่องการลงทุน หอมแดง 21 หัว พวงมาลัย 6 พวง เพ้าเจ้าแม่
สร้อยไข่มุก หลังจากไหว้เสร็จบูชาเทียนแดงของศาลจุดถวายท่าน 1 คู่ เรื่องคดีความหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกฎหมาย ถ้าเป็นโจทก์ให้นำผลมะขวิด 6 ผลมากราบของพร ถ้าเป็นจำเลยให้นำมังคุด 21 ผล มากราบขอพร