วินาทีนี้คงไม่มีข่าวใด ที่คนไทยจะให้ความสนใจมากไปกว่า ข่าวการหายตัวไปภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ของ 13 นักเตะเยาวชนทีมหมูป่า ที่เราต่างก็ส่งกำลังใจให้การค้นหาของเจ้าหน้าที่สำเร็จได้โดยเร็ว นอกเหนือจากภัยทางธรรมชาติแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่คนให้ความสนใจ และถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ก็คือตำนานลี้ลับ เรื่องเล่า อาถรรพ์ของถ้ำหลวงแห่งนี้ วันนี้ GangBeauty จะพาคุณไปเปิดตำนาน ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ตามความเชื่อของคนในพื้นที่ จากเพจ May Lovetravel พร้อมๆกันค่ะ
ดอยนางนอน เป็นชื่อเรียกขานขุนเขาลูกใหญ่ ที่มีลักษณะคล้ายกับผู้หญิงที่กำลังนอนตะแคงตัว หรือชื่อเดิมคือ ดอยสะตาย หรือ ดอยสามเส้า มีตำนานเล่าขานกันว่า
มีเจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงรุ้ง แคว้นสิบสองปันนาพระองค์หนึ่ง ผู้มีพระสิริโฉมงดงาม เพรียบพร้อมทั้งผิวพรรณและทรวดทรง ตามเชื้อสายชาวไทลื้อ พระองค์ได้แอบรัก และหนีตามชายเลี้ยงม้าในวัง มาจนถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง ซึ่งเมื่อมาถึงตรงนั้นทรงตั้งครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงเสด็จต่อไม่ไหว และประทับรอพระสวามีอยู่ที่นั่น หากแต่ไม่มีใครกลับมา เพราะพระสวามีถูกทหารลอบสังหารเสียก่อน
เพจ PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ด้วยความเสียใจ เจ้าหญิงจึงใช้ปิ่นปักผม แทงพระเศียรของพระองค์ เลือดไหลเป็นสาย (ตำนานแม่น้ำแม่สาย) พระวรกายนอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ กลายเป็นดอยนางนอนจวบจนวันนี้
“ข้านี้คือนางแห่งความระทม นางนอนนิทรารม
อาบแดดลมกลางไพร นางใดไม่แม้นข้า
รักพาวางวาย รักจางห่างร้างไกลให้ช้ำใจอยู่ช้านาน”
เพจ PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
ดอยนางนอนเป็นที่ตั้งของเขาหินปูนและมีถ้ำอยู่หลายแห่ง รวมไปถึงถ้ำหลวงนางนอน ที่เล่ากันว่ามีความยาวเชื่อมไปจนถึงถ้ำหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หรือยาวมากกว่า 7 กม. หากแต่ยังไม่มีการสำรวจที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย บริเวณปากถ้ำเป็นโถงความกว้าง 15 เมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย เกล็ดหินสะท้อนแสงสวยงาม และความสวยงามตามธรรมชาติต่างๆให้เที่ยวชม
แต่ไม่ว่าจะเป็นถ้ำแห่งนี้ หรือสถานที่ใดๆ ล้วนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักษ์คุ้มครองอยู่ เมื่อเข้าไปเที่ยวชมต้องอยู่ในความสำรวม และให้เกียรติสถานที่ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ค่ะ